Free Essay

Ikea Case Analysis

In:

Submitted By nittha19
Words 1244
Pages 5
EXECUTIVE SUMMARY จาก Vision ของ IKEA ที่ต้องการให้ผู้บริโภคสามารถออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของตนเองได้อย่างอิสระ และเฟอร์นิเจอร์นั้นยังมีราคาถูกและสวยงามอีกด้วยจาก Vision ดังกล่าวจะสามารถกำหนด Mission ของ IKEA ได้ดังนี้"We not only build you furniture, but we build you home for your better everyday life.” IKEA ใช้กลยุทธ์ Penetration Pricing นั่นคือการตั้งราคาสินค้าต่ำกว่าคู่แข่ง 30% ถึง 50% ซึ่งราคาที่ต่ำกว่าของ IKEA ก็ถือว่าเป็น Competition Advantage ของบริษัท เนื่องจากไม่มีบริษัทไหนที่สามารถเลียนแบบสินค้าของ IKEA และขายราคาต่ำเท่า IKEA ได้ ในระยะเริ่มแรก IKEA ก็ประสบปัญหาเรื่องสินค้าของ IKEA ไม่ดึงดูดลูกค้าชาวอเมริกัน เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA นั้นไม่คงทน อันเนื่องมาจากการที่ IKEA ต้อง Minimize Cost ให้มากที่สุด เพื่อที่จะขายสินค้าในราคาถูกได้ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์จึงเป็นวัตถุดิบที่มีราคาถูก และไม่คงทนมากนัก IKEA จึงได้ทำการโฆษณาโดยการจัดแคมเปญ หนังโฆษณา “Unboring” โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสื่อถึงคนอเมริกันว่า “อย่ายึดติดกับเฟอร์นิเจอร์ของตนเองมากเกินไป มันก็เป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง เปลี่ยนมันบ้างก็ได้”ในที่สุด IKEA ก็ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนค่านิยมที่สั่งสมมานานของชาวอเมริกันได้ และเริ่มกอบโกยรายได้จากชาวอเมริกัน ต่อมา IKEA มีแผนที่จะขยายตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเห็นว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็น Potential Market โดยต้องการขยายให้ครบ 50 สาขาภายในปี 2013 ด้วยเหตุนี้ IKEA จึงต้องพยายามทำให้เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian ที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้วของ IKEA ดึงดูดคนจำนวนมากขึ้น เพื่อรองรับกับสาขาที่จะเปิดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian เป็นที่นิยมเพียงลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น การที่จะขยายฐานลูกค้านั้น IKEA อาจจะทำได้โดยเปลี่ยนจากการโฆษณาสินค้าในแบบเก่าๆ เช่น โปสเตอร์ บิลบอร์ด หรือในแคตตาล็อก ซึ่งไม่เพียงพอในการดึงดูดให้ลูกค้าสนใจ มาเป็นแบบใหม่ๆที่ส่งผลต่อผู้บริโภคมากกว่าการโฆษณาแบบเก่าๆ ซึ่งผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะตามกระแสความนิยมมากขึ้น IKEA ควรจะใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้โดยการโฆษณาผ่านรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นวิธีที่ส่งผลกระทบถึงผู้บริโภคมากกว่า การแข่งขันในตลาดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลว่าIKEA จะอยู่รอดในตลาดประเทศอเมริกาหรือไม่ ซึ่งตลาดเฟอร์นิเจอร์มี 2 ประเภทด้วยกัน คือ ตลาด High-End และ Low-end ซึ่ง IKEA มีศักยภาพที่จะแข่งขันกับทั้ง 2 ตลาด โดยในตลาด High-End สินค้าของ IKEA ก็มีดีไซน์ที่สวยงามเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีราคาที่ถูกกว่า ส่วนในตลาด Low-End สินค้าของ IKEA ก็เหนือกว่าในด้านของดีไซน์ และมีราคาถูกเหมือนกัน ทำให้ IKEA ได้เปรียบคู่แข่งในตลาด Low-End ด้วยกัน แต่ IKEA ไม่มีบริการที่ดี เหมือนคู่แข่งในทั้ง 2 ตลาด ด้วยเหตุนี้อาจทำให้ IKEA ประสบปัญหาผู้บริโภคไม่เลือกซื้อสินค้าของ IKEA เนื่องจากร้านค้าอื่นบริการดีกว่า IKEA อาจแก้ปัญหานี้โดยให้ความรู้กับลูกค้ามากขึ้น โดยให้ความรู้ทั้งในเรื่องการเดินเลือกซื้อของภายในร้าน เพื่อตอบข้อสงสัยต่างๆที่ลูกค้ามี และช่วยให้ลูกค้าเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะมาเดินเลือกซื้อของให้ IKEA เมื่อลูกค้ามีความรู้แล้ว ก็จะไม่ต้องการความช่วยเหลือหรือการดูแลจากพนักงานมากนัก การที่ไม่มีพนักงานประจำอยู่ตามตำแหน่งต่างๆภายในร้านจึงไม่เป็นปัญหา และควรให้ความรู้กับลูกค้าในการประกอบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ด้วย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA สามารถประกอบได้ง่าย และไม่ว่าใครๆก็สามารถประกอบได้
INTERNAL ANALYSIS ในกรณีศึกษาไม่ได้ระบุ Mission ของ IKEA ไว้ แต่ได้กล่าวถึง Vision ของ IKEA ว่าคือ "Democratic Design: Low Price with Meaning” ซึ่งหมายถึงการที่ผู้บริโภคสามารถออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของตนเองได้อย่างอิสระ และเฟอร์นิเจอร์นั้นยังมีราคาถูกและสวยงามอีกด้วย จาก Vision ที่มีอยู่ ทำให้กลุ่มของเราเห็นว่า Mission ของ IKEA ควรจะเป็นดังนี้ " We not only build you furniture, but we build you home for your better everyday life.” เนื่องจาก IKEA เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ราคาถูก ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อน้อยที่อยากจะตกแต่งบ้าน แต่ Mission ของ IKEA ไม่ได้มีแค่การขายเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกเท่านั้น แต่ Design ของเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องมีความสวยงามด้วย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า IKEA ไม่ได้สร้างแค่เฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่ IKEA ยังมอบความสุขให้แก่ผู้บริโภคที่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ Design สวยงามในราคาถูก และมีความสุขกับการทำกิจวัตรประจำวันภายในบ้าน ส่วนเรื่องการตั้งเป้าหมายของ IKEA คือ ต้องการมี 50 ร้านค้า ในสหรัฐอเมริกา ภายในปี 2013 และเมื่อเพิ่มร้านค้าจะส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น และพยายามดึงดูดให้ลูกค้าชาวอเมริกาสนใจหันมาชอบ Scandinavian design มากขึ้น โดยการตอกย้ำว่า Scandinavian design เป็นจุดเด่นและเป็นสไตล์ที่แตกต่างซึ่งทำให้ IKEA ไม่เหมือนใคร
Strategy
IKEA ใช้กลยุทธ์ Penetration Pricing นั่นคือการตั้งราคาสินค้าต่ำกว่าคู่แข่ง 30% ถึง 50% ซึ่งราคาที่ต่ำกว่าของ IKEA ก็ถือว่าเป็น Competition Advantage ของบริษัท เนื่องจากไม่มีบริษัทไหนที่สามารถเลียนแบบสินค้าของ IKEA และขายราคาต่ำเท่า IKEA ได้ ดังนั้น IKEA จึงได้เปรียบคู่แข่งในด้านราคาที่ถูกกว่า แต่เนื่องด้วยการขายในราคาที่ถูกมากๆ ต้นทุนของสินค้าจึงต้องต่ำมากเช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ไม่แข็งแรงเท่าเฟอร์นิเจอร์ที่ราคาแพงกว่า ซึ่งอาจเกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ยังคงไม่ชินกับการต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ และยังคงติดกับความคิดว่าการซื้อเฟอร์นิเจอร์ต้องซื้อแบบคงทน ซื้อครั้งเดียวแล้วไม่ต้องเปลี่ยนอีกเลยเมื่อมาเจอเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ที่พังหลังจากการใช้ไม่กี่ปี ผู้บริโภคอาจจะนำมาเปรียบเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ปกติที่ใช้ได้นานๆ ทำให้ IKEA ต้องทำแคมเปญเพื่อให้ผู้บริโภคในอเมริกายึดติดกับเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมาน้อยลง และยอมเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม IKEA ยังคงต้องการเพิ่มสาขาร้านในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2002 มีสาขาถึง 14 สาขา และจะเปิดให้ครบ 50 สาขาภายในปี 2013 ซึ่งลักษณะร้านของ IKEA ก็เป็นจุดเด่นหนึ่งเช่นเดียวกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะชื่นชอบประสบการณ์ที่ได้ไปเดินเลือกซื้อของใน IKEA เนื่องจากร้านเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกส่วนใหญ่มักจะสะท้อนถึงราคาของเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกไปด้วย ทั้งการจัดวางสินค้าที่ไม่สวยงาม ไม่น่าดึงดูด และระบบสินค้าคงคลังที่ไร้ระบบระเบียบ ต่างจาก IKEA ที่ขายสินค้าราคาถูกเช่นเดียวกัน และยังใช้ระบบ Self-Service ในร้าน แต่ด้วยการจัดการร้านที่ดี และมีทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้ในการที่จะเดินเลือกซื้อของใน IKEA ทำให้การเดินใน IKEA นั้นสะดวกสบายกว่าเมื่อเทียบกับร้านเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกด้วยกันเอง แต่เมื่อเทียบกับร้านอื่นๆในด้านการให้บริการการขนส่งสินค้าถึงบ้าน IKEA จะสู้คู่แข่งในด้านนี้ไม่ได้เนื่องจาก IKEA ไม่ได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปในราคาสินค้าด้วย ทำให้เมื่อลูกค้าต้องการใช้บริการขนส่งสินค้า ลูกค้าต้องจ่ายเงินค่าขนส่งเพิ่ม

Organization and Management IKEA ห้างขายเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้านขนาดใหญ่ของประเทศสวีเดน ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1943 โดย Ingvar Kampardผู้ซึ่งมีแนวความคิดที่จะขายสินค้าในห้างของเขาในราคาประหยัดที่ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าของเขาได้อย่างสบาย และกลับไปพร้อมกับสินค้าที่มีดีไซน์สวยงาม โดดเด่นด้วยสไตล์ Scandinavian และมากด้วยฟังก์ชันการใช้งาน ที่สำคัญคือเหลือเงินกลับไปด้วย จากแนวคิดดังกล่าวทำให้เกิดนโยบายที่สำคัญขององค์กรที่ได้ถือปฎิบัติกันมาโดยตลอด นั้นคือ เรื่องของการประหยัด เพื่อลดต้นทุนขายให้มากที่สุด จนมีคำกล่าวว่า “Waste was considered a deadly sin at IKEA”เห็นได้จากการที่ IKEA รณรงค์ให้พนักงานทำการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือแม้กระทั่งการเดินทางมาทำงานที่ซึ่งขนาดผู้จัดการ ยังต้องใช้บริการรถเมล์ แทนที่จะนั่งรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้พนักงานภายในองค์กรรู้จักประหยัด และไม่มีการแบ่งลำดับชนชั้น จนเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง ยากต่อการลอกเลียนแบบ ซึ่งจุดนี้เองที่ถือได้ว่าเป็น Competitive Advantage ของ IKEA เนื่องจากIKEA มีทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ ซึ่ง IKEA
Vertical and Horizontal Boundaries ในปี 2003 IKEA ยังมีแค่กิจการขายเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ยังไม่ได้แตกสาขาไปยังธุรกิจอื่นๆ ทำให้ IKEA สามารถ Focus กับ Core business ได้อย่างเต็มที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่ง IKEA เป็นแบรนด์ที่เน้นในการขายสินค้าราคาถูก ทำให้ IKEA ต้องพัฒนา Supply Chain ของบริษัทอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดต้นทุนในส่วนที่ไม่จำเป็น และรักษา Core Competency ขององค์กรไว้ ด้วยเหตุที่ IKEA มุ่งเน้นการลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด เพื่อที่จะได้ขายสินค้าในราคาที่ต่ำได้ ดังนั้น IKEA จึงพยายามที่จะหา Supplier ที่มีโรงงานอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา เนื่องจากประเทศเหล่านั้นจะมีค่าแรงที่ต่ำ แต่ IKEA ก็ยังมีโรงงานผลิตเป็นของตนเองด้วย ส่วนในเรื่องของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ว่าจะผลิตอออกมาในรูปแบบอย่างไร และจะทำอย่างไรให้เฟอร์นิเจอร์นั้นสามารถถอดออกมาเป็นชิ้นส่วนแล้วจัดส่งแบบ Flat-package ได้เพื่อประหยัดพื้นที่ในการขนส่งและลดความเสี่ยงในการชำรุดเสียหายของสินค้า เป็นหน้าที่ของ IKEA เองที่จะหาบุคลากรภายในองค์กรเอง มาแข่งขันกัน เพื่อหาไอเดียของรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุด เพื่อนำไปผลิตต่อในโรงงานในต่างประเทศ และแต่ละชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์นั้นก็มาจาก Supplier หลายแห่ง
Operation
เริ่มแรกที่ IKEA ได้เข้ามาในสหรัฐอเมริกายังไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ยังไม่ตรงกับรสนิยมของชาวอเมริกัน กล่าวคือ IKEA มีการdesign ห้องนอน ห้องครัวไม่พอดีกับตัวบ้าน เครื่องครัวเล็กเกินไป และมีการใช้หน่วยวัดที่ต่างจากประเทศสหรัฐอเมริกา คือใช้หน่วยเมตริกซ์ แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ U.S. Customary System ทำให้ยากต่อการคาดเดาว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อไปจาก IKEA พอดีกับพื้นที่ที่ได้เตรียมเอาไว้หรือไม่ เมื่อ IKEA ทราบปัญหาของตนเอง IKEA จึงได้ทำ Market Research ว่า IKEA ควรปรับปรุงสินค้าอย่างไรบ้างเพื่อให้ตรงกับความชอบของชาวอเมริกัน หลังจากที่ IKEA เข้าใจคนอเมริกันมากขึ้น สินค้าของ IKEA จึงเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 1997 ถึงปี 2001 จากเดิมที่มีรายได้เพียง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี ซึ่งถือได้ว่า IKEA ประสบความสำเร็จอย่างมากในอเมริกา เพราะสามารถตีตลาดและมีส่วนแบ่งในตลาดร่วมกับแบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่าง Wal-Mart ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ ขณะนั้น Office Depot Sam’s Club (จาก Exhibie8) และอีกหลายๆบริษัท ได้ในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้อเมริกายังได้กลายเป็นตลาดอันดับที่ 3 ที่ทำเงินให้กับ IKEA มากที่สุด (จาก Exhibit 3) และจากที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ทำให้ IKEA เป็นธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์ที่โตเร็วเป็นอันดับที่ 7 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1985 ถึงปี 2000 IKEA สามารถเปิดร้านได้ถึง 14 สาขา และภายในปี 2013 IKEA ยังมีแผนที่จะเปิดให้ครบ 50 สาขา ปัจจุบัน IKEA ได้ก้าวมาเป็นธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 14 ในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว
Marketing
IKEA ทำการโฆษณาโดยการจัดแคมเปญ “Unboring” ที่ดึงดูดสายตาของสาธารณะชนเป็นจำนวนมาก โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสื่อถึงคนอเมริกันว่า “อย่ายึดติดกับเฟอร์นิเจอร์ของตนเองมากเกินไป มันก็เป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง เปลี่ยนมันบ้างก็ได้” จากแคมเปญดังกล่าวก็ทำให้ IKEA กลายเป็นที่สนใจของคนอเมริกัน และเกิดค่านิยมใหม่ขึ้นมาว่า การเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆไม่ใช้เรื่องแปลก และเป็นสิ่งที่ควรจะทำ ด้วยเหตุนี้ IKEA จึงสามารถขายสินค้าของตนเองได้ ทั้งๆที่ผู้บริโภคทราบว่ามันจะไม่อยู่คงทนตลอดไป แต่มันอาจจะพังลงในเวลาเพียงไม่กี่ปี ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็รับได้กับแนวความคิดนี้ และยอมซื้อเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะราคาที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ที่อื่นๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลยุทธ์ทางการตลาดของ IKEA นั้นมีอิทธิพลสูงมาก ที่สามารถเปลี่ยนค่านิยมที่สั่งสมมานานของชาวอเมริกันได้ นอกจากนี้ยังมีนโยบายการตลาดของ IKEA ในการตั้งราคาสินค้าที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับผู้ขายรายอื่นๆ โดยที่มีการกำหนดสโลแกนของบริษัทว่า “Low Price with Meaning” การที่ IKEA กำหนดสโลแกนของบริษัทของตนเองเช่นนี้เพื่อที่จะสื่อสารไปยังลูกค้าว่าอย่างไรก็ตามสินค้าของ IKEA จะยังคงมีราคาที่ต่ำแน่นอน แต่ในราคาที่ต่ำนั้นจะมีการนำเสนอรสนิยมและสินค้าที่มีดีไซน์อย่างชาญฉลาดซึ่งจะไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามันถูกเกินไปจนไม่น่าซื้อ
Distribution
ตั้งแต่ปี 1985 IKEA ก็ได้เริ่มเปิดสาขาแรกที่ Philadelphia และในปีต่อๆมาก็ได้ขยายไปยังรัฐอื่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2003 IKEA มีร้านเปิดบริการกระจายตัวอยู่ถึง 11 รัฐ 14 สาขา ทั่วสหรัฐอเมริกา และมีโครงการจะขยายสาขาให้ถึง 50 สาขา ภายในปี 2013 อีกด้วย ส่วนการขนส่งสินค้าให้ลูกค้า IKEA เป็นการให้บริการแบบ Self-service กล่าวคือลูกค้าอาจจะเลือกสินค้าในแค็ตตาลอกหรือลูกค้าจะมาเดินเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองที่ร้านของ IKEA และต้องขนสินค้าชิ้นที่ซื้อนั้นกลับบ้านไปประกอบเองด้วย ดังนั้น IKEA จึงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าจากร้านส่งไปถึงบ้านของลูกค้า ค่าขนส่งที่ IKEA ต้องรับผิดชอบมีแค่ค่าขนส่งส่วนประกอบของสินค้าที่มาจากหลายๆที่กระจายไปทั่วโลก IKEA จึงจำเป็นต้องมีนโยบายในการหาวีธีขนส่งที่เกิด Cost-efficiency มากที่สุด โดย IKEA จะกำหนดค่าใช้จ่ายให้แต่ละโรงงานผลิตสินค้าให้อยู่ในจำนวนงบที่ IKEA ได้กำหนดไว้
Finance
จากข้อมูลใน Exhibit 1 ทำให้ทราบว่ารายได้จากยอดขายของ IKEA เพิ่มขึ้นทุกๆปีติดต่อกันเป็นเวลา 13 ปี โดยในปี1993 มียอดขายประมาณ 4,100 ล้านดอลลาร์และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในปี 2003 มียอดขายประมาณ12,200ล้านดอลลาร์ และยอดขายทั้งหมดนี้ มาจากทวีปยุโรป 82% อเมริกาเหนือถึง 15% และจากเอเชีย 3% (จาก Exhibit 2) โดยเมื่อเทียบกับจำนวนสาขาที่เปิดในประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงแค่ 14 สาขา เปรียบเทียบกับสาขาในยุโรปที่มีถึง 126 กว่าสาขา (จาก Exhibit 4) แสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานของ IKEA ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีประสิทธิภาพมาก และธุรกิจ IKEA สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในอเมริกา และยังมีโอกาสจะเติบโตได้อีกในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ IKEA ที่จะขยายสาขา และหาวีธีที่จะทำให้ชาวอเมริกันหันมาชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian ที่เป็นเอกลักษณ์ของ IKEA มากยิ่งขึ้น
ANALYSIS OF THE COMPETITIVE ENVIRONMENT
Barriers to Entry การเข้ามาในตลาดเฟอร์นิเจอร์ Low-End หรือที่เน้นขายเฟอร์นิเจอร์ในราคาถูกนั้น สามารถเข้ามาได้ไม่ยากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนมาก เช่น Wal Mart และOffice Depot เป็นร้านค้าปลีกราคาประหยัด เน้นซื้อมาขายไป ทำให้ไม่มีต้นทุนคงที่เป็นต้นทุนจม ส่วนต้นทุนแปรผันก็ไม่สูงนัก อีกทั้งผู้บริโภคไม่ได้มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์มาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่มีลักษณะ Price Sensitive หากที่ไหนขายสินค้าลักษณะคล้ายๆกันแต่มีราคาที่ถูกกว่า ก็จะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นแทน วัตถุดิบสำหรับการผลิตยังเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาหากจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดเฟอร์นิเจอร์ Low-End ต่างกับตลาด High-End ที่มีต้นทุนจมสูง เนื่องจากต้นทุนเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นมีต้นทุนที่สูงมาก อีกทั้งยังไม่ได้ขายสินค้าได้เร็วแบบร้านเฟอร์นิเจอร์ราคาถูก เช่น Ethan Ellen เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผู้บริโภคยังมีความเป็น Brand Loyalty สูง จึงเป็นการยากที่จะมีผู้ประกอบการใหม่ๆจะเข้ามาในตลาดและทำกำไรได้ในตลาดเฟอร์นิเจอร์ High-End
Power of Buyers อำนาจการต่อรองของผู้ซื้อสินค้าค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่า IKEA จะมีจุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่ความเป็นสไตล์ Scandinavian และมีราคาถูกกว่าแบรนด์อื่น แต่ในช่วงระยะแรกๆของการเปิดกิจการในประเทศสหรัฐอเมริกา รูปลักษณ์ของสินค้ากลับไม่ได้รับความนิยมจากคนอเมริกันมากเท่าที่ควร ทั้งนี้คนอเมริกันก็ไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ และคำนึงเรื่องความแข็งแรงทนทานของวัสดุเป็นสำคัญ ดังนั้น เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA อาจจะไม่ตอบสนองความต้องการของคนอเมริกันที่ยังยึดติดอยู่กับเฟอร์นิเจอร์สไตล์ American และใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน ไม่ต้องการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อย นอกจากนี้อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์มีทั้งคู่แข่งรายใหญ่และร้านค้าปลีกจำนวนมาก ที่มักใช้กลยุทธ์ตัดราคาเช่นเดียวกับ IKEA ทำให้ผู้ซื้อมีทางเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายขึ้น จึงมีอำนาจในการต่อรองสูง
Power of Suppliers
Supplier ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้ IKEA นั้นมีจำนวน 1,800 กว่าราย มาจาก 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนมากมาจากประเทศที่กำลังพัฒนา เนื่องจาก IKEA ต้องการต้นทุนที่ต่ำที่สุด และประเทศเหล่านี้ก็มีค่าแรงที่ต่ำ วัตถุดิบก็หาได้ง่ายราคาไม่สูง มากนัก และ IKEA ยังเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้าบางแห่งเองด้วย
นอกจากนั้น IKEA ยังมีนโยบายให้ Supplier เหล่านั้นแข่งขันกันเองโดยให้แต่ละแห่งออกแบบเองว่าจะผลิตสินค้าตามดีไซน์ที่ IKEA ต้องการอย่างไรให้เกิด Cost efficiency มากที่สุด ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ได้เป็นวัตถุดิบเฉพาะ สามารถหาได้ง่าย ดังนั้น IKEA จึงไม่ต้องพึ่งพา Supplier ที่ใดที่หนึ่งมากเป็นพิเศษ เพราะ Supplier ทุกๆที่ก็สามารถผลิตสินค้าให้กับ IKEA ได้เหมือนๆกัน
ผลิตภัณฑ์ของ IKEA มี Design ที่เป็นเป็นเอกลักษณ์ของ Scandinavian อยู่ในตัว ซึ่งไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ง่าย ทำให้หาก Supplier ต้องการจะมาผลิตสินค้าแบบ IKEA เป็นไปได้ยาก เพราะต้องมี Designer ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ทำให้สรุปได้ว่า Supplier ของ IKEA นั้นมีอำนาจต่อรองที่ต่ำ เนื่องจาก IKEA เป็นบริษัทใหญ่ สามารถจ้างใครก็ได้ให้ผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ให้ ไม่ต้องพึ่งความเชี่ยวชาญของ Supplier รายใดรายหนึ่ง ดังนั้นหาก IKEA จะเปลี่ยน Supplier ก็ไม่ได้เกิดผลเสียอย่างไรต่อ IKEA
Threat of Substitutes สินค้าทดแทนสำหรับเฟอร์นิเจอร์นั้นมีน้อยมาก เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ด้านที่อยู่อาศัย ที่ในชีวิตประจำวันต้องมีกันทุกบ้าน ดังนั้น ภัยคุกคามของสิ่งที่จะมาทดแทนเฟอร์นิเจอร์ จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับ IKEA
Competitive Rivalry & Barriers to Exit
ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์นี้ มีการแข่งขันที่สูง เนื่องจาก ผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ 10 ราย รวมกันแล้ว มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 14.2% และผู้ประกอบการนั้นประกอบไปด้วย ร้านค้าขายปลีกราคาประหยัด ซึ่งไม่ได้เน้นกิจกรรมหลัก คือ การขายเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ Wal-Mart, Office Depot และ Costco โดยจะเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีความอ่อนไหวต่อราคา มีรูปแบบผลิตภัณฑ์เน้นการใช้สอย แต่ Design ไม่สวย และไม่มีการบริการที่ดี และตลาดแบบ High – End ได้แก่ Ethan Allen, Thomasville, Jordan’s Furniture ซึ่ง กิจกรรมหลัก คือ การขายเฟอร์นิเจอร์ โดยจะเน้นผู้บริโภคที่ต้องการความหรูหรา และไม่จำกัดเรื่องราคา โดยสินค้าจะมีคุณภาพที่สูง และการบริการการขายที่ดี มีที่ปรึกษาคอยให้บริการ
IKEA นั้นไม่สามารถจัดประเภทของตำแหน่งในตลาดที่อยู่ได้อย่างแน่ชัด เพราะ วิสัยทัศน์ระบุไว้ว่า IKEA เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่รูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกสวยงาม ราคาถูก และเน้นลูกค้าที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการ Design สวย ซึ่ง ผู้ประกอบการในตลาด Low-End นั้นขายราคาต่ำ ส่วนผู้ประกอบการในตลาด High-End ก็มีจุดเด่นในเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพ บริการที่ดีเยี่ยม และเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ชอบ Design สวย แต่ IKEA นั้นมีจุดด้อยทั้งเรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยคงทนถาวร และไม่มีบริการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ทำให้ IKEA ต้องแข่งขัน ทั้งตลาด High End และ Low End เพื่อแย่งลูกค้าจากทั้งสองตลาดนั้น ทำให้ยากต่อการทำกลยุทธ์ในการแข่งขัน
คู่แข่งสำคัญของ IKEA ในเรื่องของดีไซน์จะเป็นร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ระดับ Hi-End เพราะมีดีไซน์ให้เลือกมากกว่าและความแข็งแรงทนทานมีมากกว่า มีการบริการออกแบบตกแต่งภายในและมีบริการจัดส่งและประกอบสินค้าให้ถึงบ้านซึ่ง IKEA ไม่มี เนื่องด้วยจากต้องการลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด และการที่ IKEA ขายสินค้าในราคาที่ค่อนข้างต่ำ คู่แข่งในเรื่องราคาจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ระดับ Low-End เพราะว่าขายสินค้าในราคาที่ต่ำเหมือนกันแต่อาจจะแตกต่างกันเพียงดีไซน์เท่านั้น จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะเห็นว่า IKEA มีการแข่งขันกับผู้ขายสินค้าทั้งในระดับ High-End และ Low-End
Macro-Environmental
Political -- Social
สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่เดียวของโลกที่ไม่ได้ใช้ระบบมาตรวัดแบบเมตริกซ์ แต่ใช้ระบบ U.S. Customary System เช่น ในมาตรวัดความกว้าง ไม่ใช้ หน่วยเซนติเมตร หรือ เมตร แต่ใช้ นิ้ว ฟุต หรือ หลา แทน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ IKEA ในระยะแรก ที่แต่เดิมเป็นใช้ระบบเมตริกซ์ ไม่สามารถเข้ากับวิถีชีวิตของคนอเมริกันได้ เช่น ขนาดเครื่องเรือนไม่พอดีกับตัวบ้าน หรือ แก้วมีขนาดใหญ่เกินไป เป็นต้น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากลูกค้าในระยะแรก ต่อมา IKEA จึงต้อง Americanize ผลิตภัณฑ์ที่ขายเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ให้มีขนาดตามมาตรวัดแบบที่คนอเมริกันใช้ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนอเมริกัน
Social
มีผลการสำรวจวิถีการดำเนินชีวิตของคนในประเทศสหรัฐอเมริกาในการใช้เฟอร์นิเจอร์ไว้ว่า คนอเมริกันใช้โซฟานานกว่าใช้รถยนต์เสียอีก และยังมีแนวโน้มที่ว่า เปลี่ยนคู่นอน บ่อยกว่า เปลี่ยนโต๊ะทานข้าว คิดเป็นอัตราส่วนคือ มีคู่นอน 3 คน ค่อยเปลี่ยนโต๊ะ 2 ครั้ง ซึ่งข้อนี้ทำให้ IKEA ตระหนักถึงความระแวดระวังในการจับจ่ายใช้สอยเฟอร์นิเจอร์ของคนอเมริกัน ว่าคนอเมริกันต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ให้คุ้มค่าก่อน และนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แล้วจึงเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่อีกครั้ง IKEA จึงออก campaign ที่มีชื่อว่า Unboring ที่เปลี่ยนค่านิยมของ การจับจ่ายใช้สอยเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นเรื่องสนุกสนาน จะเปลี่ยนกี่ครั้งก็ได้ ไม่ต้องรอให้หมดอายุการใช้งาน
IKEA ระบุไว้ว่า กลุ่มลูกค้าของเขาเป็นประเภทชอบท่องเที่ยว ชอบความเสี่ยง อาหารชั้นดี และไวน์รสเลิศ แต่ท่องเที่ยวต้องมีแผนหรือ ตารางเวลาเสมอ และ เป็น early adopter สำหรับเทคโนโลยีต่างๆ เมื่อทราบเช่นนี้ IKEA จึงมีการจัดตกแต่งร้านให้สอดคล้องกับคำจำกัดความของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว เช่น ลักษณะเหมือนพิพิธภัณฑ์ Guggenheim ซึ่งสื่อถึงลักษณะคนที่ชอบท่องเที่ยว มีกระดาษจดโน้ตสำหรับการเลือกซื้อสินค้า สื่อถึงการวางแผนก่อนไปเที่ยว ทางเดินที่บังคับให้เดินตรงไป ไม่มีทางลัด ไม่ทราบแน่ชัดว่า ข้างหน้าจะเจออะไร สื่อถึงคนที่ชอบความเสี่ยง มีผลิตภัณฑ์แบบ Flat Package ที่ไม่เหมือนใคร สื่อถึงความเป็น Early Adopter ในเรื่องเทคโนโลยี
Technology
IKEA มีนวัตกรรมสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร คือ เป็น Flat Package ที่เน้นให้ลูกค้าประกอบเองได้ สะดวกต่อการขนส่ง ทำให้IKEA ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 6 เท่า จากการขนส่ง แรงงานประกอบ และเช่าพื้นที่เก็บสินค้า
Internal and External Consistency
ข้อบกพร่องอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดของ IKEA นั้นคือ IKEA ไม่สามารถระบุตัวเองได้ชัดเจนในตลาดว่าเป็นผู้ขายเฟอร์นิเจอร์ประเภท High End หรือ Low End เนื่องจาก IKEA ได้เล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบในการแข่งขันทั้ง 2 ตลาด เช่น ถ้าจะแข่งขันกับตลาด High End ก็ต้องมีราคาที่ถูก และหากแข่งขันกับ Low End ก็ต้อง มีดีไซน์ที่ดี แต่ IKEA ไม่ได้คำนึงว่า ทั้งสองตลาดก็มีจุดแข็งทางด้านอื่นที่ IKEA มองข้ามไป ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ IKEA ก็เสียเปรียบทั้งสองตลาดในเวลาเดียวกัน เช่น ตลาด High End มีสินค้าที่มีคุณภาพ และการบริการที่ดีเยี่ยม ส่วนตลาด Low End ก็เน้นไปทางประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสวยงาม แต่มีบริการขนส่งติดตั้งให้ถึงบ้าน ซึ่งทั้ง 2 คุณสมบัติเป็นคุณสมบัติที่ IKEA ขาดไปทั้งคู่ ซึ่งผลสุดท้ายอาจทำให้ IKEA พ่ายแพ้ต่อทั้งสองตลาดก็เป็นได้ ดังนั้น IKEA ควรจะแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง เพื่อไม่ให้เสียเปรียบกับคู่แข่งทั้ง 2 ตลาด
ข้อบกพร่องอีกอย่างที่ IKEA มี คือ การบริการที่ไม่ดีพอ แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้วใน Vision ของบริษัทที่เน้นลูกค้าบริการตนเอง แต่ในบางครั้ง การบริการบางอย่างก็จำเป็นที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ เช่น พนักงานประจำจุด ที่คอยบอกลูกค้าว่า สินค้าที่พวกเขาต้องการอยู่ตรงไหน ไม่ใช่ให้ลูกค้าเดินไปหาพนักงานเอง ณ จุดใกล้กับชำระเงิน ประกอบกับสถานที่ที่กว้าง และกำหนดทางเดินไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งลูกค้าไม่สามารถจะเดินลัดไปได้ อีกประการหนึ่ง คือ ทั้งตลาด High End และ Low End มีการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน และยังมีบริการอื่นๆ เมื่อถึงบ้าน เช่น ยกเฟอร์นิเจอร์เก่าออกไปทิ้งให้ และประกอบอันใหม่ แล้วนำไปวางจัดตั้ง ณ สถานที่ที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงรับซื้อของเก่าด้วย ซึ่งเป็นบริการที่ IKEA ไม่รองรับ แต่ใน Vision ก็กำหนดไว้ว่า ผลิตภัณฑ์ของเขา เป็นแบบ Flat-package ที่ให้ลูกค้ายกขึ้นรถไปประกอบเอง สอดคล้องกับนโยบายบริการตนเอง และประหยัดต้นทุนการจัดส่งของบริษัท แต่หากว่าลูกค้ามีปัญหาในการต่อเติม ซึ่งเป็นทักษะที่ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องมี ก็จะเป็นปัญหาต่อลูกค้าว่า แทนที่จะได้ใช้งานเลยทันที กลับต้องรอให้คนที่มีทักษะมาประกอบให้ กลับกลายเป็นว่า ลูกค้าได้เกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการใช้สินค้านั้น
สิ่งที่ไม่ได้ระบุอีกประการคือ ต้นทุนที่แท้จริงที่เกิดขึ้นที่ลูกค้าต้องจ่ายไปจริงๆ ต่อสินค้าชิ้นหนึ่งเป็นเท่าไร เพราะทั้งนี้ การจะได้มาซึ่งสินค้าพร้อมใช้งาน ลูกค้ายังต้องขนส่งเฟอร์นิเจอร์กลับบ้านด้วยตนเอง และยังประกอบเองอีกด้วย ซึ่งยังไม่รวมถึงความไม่คงทนถาวรของสินค้าที่มีอายุการใช้งานต่ำ ดังนั้นในคำว่า เฟอร์นิเจอร์ราคาถูก ของ IKEA นั้น แท้จริงแล้วอาจจะไม่ได้ถูกอย่างที่คิด
ในส่วนข้อดีของ IKEA คือ IKEA ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยน Perception ของผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาที่กล่าวไว้ว่า เฟอร์นิเจอร์ จะเปลี่ยนบ่อยแค่ไหนก็ได้ (Unboring Campaign) ทำให้ผู้บริโภคเหล่านั้นจับจ่ายใช้สอยกับเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายขึ้น ไม่ระแวดระวังในการหาข้อมูลเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละครั้ง ซึ่งจะเป็นนานๆครั้งก่อนที่จะมี Campaign นี้ สอดคล้องกับลัทธิบริโภคนิยมที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผลตอบรับที่ได้ทำให้ IKEA ติดอันดับ Top Ten บริษัทที่ประสบความสำเร็จในด้านเฟอร์นิเจอร์ แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ ค่านิยมนี้สามารถหมดไปได้หากเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาซบเซาลง
IKEA SWOT ANALYSIS
Strength
1. IKEA เป็นห้างขายเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ภายในบ้านที่มีชื่อเสียงระดับโลก 2. IKEA มีสินค้าที่มีดีไซน์สวยงาม โดดเด่นด้วยสไตล์ Scandinavian มากด้วยฟังก์ชันการใช้งานและมีราคาไม่แพง 3. IKEA ขายสินค้าโดยให้ลูกค้าไปประกอบสินค้าใช้เองที่บ้าน โดยสินค้าจะอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบ Flat-package ซึ่งช่วยให้ลูกค้านำกลับบ้านได้อย่างสะดวก และยังช่วย IKEA ประหยัดค่าแรงในการประกอบสินค้า ประหยัดพื้นที่ในการขนส่ง ประหยัดค่าเช่าคลังสินค้าและลดความเสี่ยงในการชำรุดเสียหายของสินค้า 4. IKEA มี Supplier ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้สูงถึง 1,800 กว่าราย มาจาก 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนมากมาจากประเทศที่กำลังพัฒนาทำให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ 5. IKEA มีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งยากต่อการลอกเลียนแบบ ในเรื่องของความประหยัด 6. IKEA มีรูปแบบร้านที่โดดเด่นกว่าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่อื่น โดยทำเป็นรูปแบบ modern theme park ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของผู้บริโภค เนื่องจากยังไม่เคยมีร้านเฟอร์นิเจอร์รูปแบบนี้มาก่อน ภายในตัวร้านยังมีร้านอาหาร และศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ซึ่ง IKEA ก็เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งแรกที่คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าในจุดนี้
Weakness
1. สินค้าของ IKEA มีอายุการใช้งานที่ต่ำ 2. IKEA ไม่มีบริการขนส่งสินค้า หากลูกค้าต้องการให้ส่งสินค้าไปที่บ้าน จะต้องเสียเงินค่าบริการเพิ่ม ซึ่งต่างจากร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ที่อื่นๆที่จะส่งสินค้าถึงบ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 3. การคัดสรรสไตล์สินค้าของ IKEA ก็ยังคงจำกัดอยู่แค่ใน “Matrix” เท่านั้น ซึ่งอาจจะน้อยเกินไปและไม่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาวอเมริกันอย่างแท้จริง 4. IKEA ไม่มีการระบุ positioning ของตนเองไว้อย่างชัดเจน ว่าจะอยู่ตลาดใดระหว่าง Hi-End กับ Low –End
Opportunity
1. โอกาสในการบุกตลาดใหม่ๆ เช่น ตลาดฝั่งเอเชีย 2. โอกาสในการขายสินค้าแบบ E-commerce
Threat
1. คู่แข่งจากตลาด low end เช่น Wal-Mart, Costco, Office Depot และร้านค้าปลีกขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป 2. พฤติกรรมการใช้เฟอร์นิเจอร์ของชาวอเมริกัน ที่ไม่นิยมเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อย 3. การบริการที่ดีกว่าของคู่แข่ง อาจทำให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้สินค้าแบรนด์อื่น 4. เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian ยังไม่เป็นที่นิยมของชาวอเมริกันเท่าที่ควร

VALUE CHAIN ANALYSIS
Firm infrastructure

บรรยากาศภายในองค์กรของ IKEA นั้นมีความเป็นกันเอง ทำให้พนักงาน ผู้จัดการ ไปจนถึงผู้บริหาร ค่อนข้างสนิทสนมกัน การติดต่องานจึงเป็นไปได้ราบรื่น โครงสร้างไม่ซับซ้อน ทำให้ดำเนินงานได้รวดเร็ว และทุกๆคนในองค์กรยังถูกปลูกฝัง และฝึกฝนในเรื่องของการดำเนินงานอย่างประหยัด เช่นผู้จัดการนั่งรถประจำทาง แทนการใช้รถแท็กซี่ หรือรถส่วนตัว พนักงานรู้จัก ประหยัดไฟฟ้าภายในบริษัท ซึ่งทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรว่าควรประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นถึงแม้ว่าบริษัทจะเติบโตมากขึ้นแล้วก็ตาม

Human resource management IKEA ใช้บุคลากรภายในบริษัทในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งดีไซเนอร์ในบริษัทเองก็มีด้วยกันหลายคน ดังนั้น IKEA จึงสามารถเลือกดีไซน์ที่ดีที่สุดจากบุคลากรภายในองค์กร และนอกจากนี้ IKEA ยังจ้างดีไซเนอร์จากภายนอก ดังนั้นถึงแม้ว่าดีไซเนอร์ภายในบริษัทลาออกก็ยังคงมีคนสำรองเป็นดีไซเนอร์จากภายนอก

Technology Development IKEAมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบ Flat-Package เพื่อการขนส่งได้ง่าย และลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายของสินค้าและยังช่วยประหยัดค่าขนส่งอีกด้วย
Procurement
IKEAมี Supplier อยู่ทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาทำให้ได้วัตถุดิบในราคาที่ต่ำ และอำนาจในการต่อรองของ Supplier ค่อนข้างต่ำมาก ถ้า Supplier รายใดรายหนึ่งไม่ยอมผลิตให้ IKEA ก็สามารถให้ Supplier รายอื่นผลิตแทนได้
Inbound Logistics เฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นจะมีส่วนประกอบส่งมาจาก Supplier หลายราย โดย IKEA จะนำชิ้นส่วนเหล่านั้นมาวางให้เลือกใกล้ๆกัน โดยให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจเลือกชิ้นส่วนเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้IKEAไม่ต้องเสียเวลาในการนำชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมาประกอบกันก่อนแล้วค่อยนำไปวางจำหน่าย ช่วยลดต้นทุนในการจ้างแรงงานมาเพื่อประกอบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ และทำให้ IKEA ขนส่งชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์เพิ่มมากขึ้นถึง 6 เท่า
Operations
IKEAมีการผลิตครั้งละมากๆ และในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ IKEA จะใช้วัสดุที่ดีและมีคุณภาพ เป็นพื้นผิวภายนอกของสินค้า และใช้วัสดุเกรดต่ำเช่น ไม้อัด เป็นต้น ไว้ในที่ที่มองไม่เห็นหรือเป็นองค์ประกอบภายในที่เป็นแกน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของสินค้ามีราคาต่ำแต่ลักษณะภายนอกของสินค้านั้นสวยงาม ดูมีราคา โดย IKEA นั้นออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นแบบ Scandinavian ซึ่งมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ IKEA

Outbound Logistics IKEAเลือกที่จะขนส่งทางเรือเพราะทำให้ต้นทุนในการขนส่งต่ำที่สุดและยังมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบ Flat-Package ซึ่งจะทำให้ประหยัดเนื้อที่ในการขนส่งทำให้ขนส่งต่อครั้งได้จำนวนมากขึ้น
Marketing and Sales IKEA จำหน่ายสินค้าในราคาต่ำและสินค้ามีดีไซน์ที่สวยงาม แต่มีข้อเสียที่แฝงมาด้วย อันเป็นผลมาจากราคาที่ถูกของเฟอร์นิเจอร์ นั่นก็คือความไม่คงทนของเฟอร์นิเจอร์ IKEAจึงออกแคมเปญโฆษณาให้ชาวอเมริกันหันมาสนใจสินค้าของIKEA และกล้าที่จะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น เปลี่ยนจากการบริโภคสินค้าราคาแพง โดยนานๆครั้งเปลี่ยนที หรืออาจจะไม่เปลี่ยนเลย มาเป็นการบริโภคสินค้าราคาถูก ง่ายต่อการตัดสินใจในการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านบ่อยๆ จากแคมเปญการโฆษณาข้างต้น ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากในปี 1997 ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Service
เนื่องจาก IKEAต้องการลดต้นทุนจึงต้องให้ลูกค้าบริการตนเองเป็นหลัก โดยภายในร้านจะมีพนักงานให้บริการอยู่ตามจุดต่างๆเท่านั้น และหากลูกค้าต้องการบริการขนส่งก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ IKEA ก็ยังมีบริการอื่นๆ ที่ดีกว่าร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ที่อื่น คือ ห้องสำหรับเด็กเล่นเพื่อให้ผู้ปกครองไปเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ที่จอดรถที่สามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก ร้านอาหารสำหรับลูกค้า ธนาคาร และภายในร้านยังมีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินเลือกซื้อของภายใน IKEA เตรียมพร้อมไว้ให้อีกด้วย

CRITICAL ISSUE
Critical Issue #1: การบริการของ IKEA ตลาดเฟอร์นิเจอร์มี 2 ประเภทด้วยกัน คือ ตลาด High-End และ Low-End ซึ่งแบ่งโดยราคา และคุณภาพของสินค้า IKEA มีศักยภาพที่จะแข่งขันกับทั้ง 2 ตลาด โดยในตลาด High-End สินค้าของ IKEA ก็มีดีไซน์ที่สวยงามเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีราคาที่ถูกกว่า ลูกค้าของร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงอาจจะเปลี่ยนมาใช้เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ส่วนในตลาด Low-End สินค้าของ IKEA ก็เหนือกว่าในด้านของดีไซน์ และมีราคาถูกเหมือนกัน ทำให้ IKEA ได้เปรียบคู่แข่งในตลาด Low-End ด้วยกัน แต่ IKEA ไม่มีบริการที่ดี เหมือนคู่แข่งในทั้ง 2 ตลาด โดยร้านค้าทั้งในตลาด High-End และ Low-End ก็ต่างมีบริการให้กับลูกค้า เช่น บริการแนะนำสินค้า บริการส่งสินค้า รวมไปถึงบริการรับขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เก่า ด้วยเหตุนี้อาจทำให้IKEA ประสบปัญหาผู้บริโภคไม่เลือกซื้อสินค้าของ IKEA เนื่องจากร้านค้าอื่นบริการดีกว่า
Critical Issue #2: เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian ไม่เป็นที่นิยมของลูกค้าชาวอเมริกัน IKEA ต้องการขยายสาขาให้ครบ 50 สาขาภายในปี 2013 แต่เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ที่เป็นสไตล์ Scandinavian ยังไม่เป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ หรือยังเข้าไม่ถึงคนในหลายๆกลุ่มนั่นเอง ดังนั้นการที่ IKEA จะเปิดสาขาเพิ่ม IKEA จะต้องหาวิธีที่จะสามารถดึงดูดคนให้หันมาซื้อสินค้าของ IKEA เพิ่มมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนจากการเปิดสาขาใหม่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
STRATEGIES
CI #1, Alternative A: พัฒนา Customer Relationship ให้ดีขึ้น ปัจจุบัน IKEA ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากนัก เนื่องจากทุกอย่างในร้านเป็นระบบ Self-service ซึ่งบางครั้งระหว่างการเลือกซื้อสินค้า ลูกค้าอาจจะต้องการคำแนะนำหรือมีข้อสงสัยที่อยากจะสอบถามพนักงาน การมีพนักงานประจำอยู่ในบริเวณต่างๆของร้านอาจจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น และยังช่วยให้ลูกค้าที่ไม่เคยเดินในร้าน IKEA มีความมั่นใจ และกล้าที่จะมาเดินเลือกซื้อสินค้าภายใน IKEA มากขึ้น เพราะสามารถสอบถามข้อสงสัยต่างๆจากพนักงานที่ประจำอยู่ในบริเวณต่างๆของร้านได้ทันที แต่การบริการในด้านการขนส่งและการประกอบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ยังคงเป็นแบบเดิม คือหากลูกค้าต้องการบริการเหล่านั้น จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม เนื่องจาก IKEA ขายสินค้าในรูปแบบที่ลูกค้าสามารถขนย้ายกลับบ้านได้อย่างสะดวก และสามารถนำไปประกอบเองได้ การเพิ่มบริการการขนส่ง และการประกอบเฟอร์นิเจอร์ จะทำให้จุดเด่นของ IKEA หายไปและทำให้ต้นทุนเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ดังนั้น IKEA ควรเน้นการให้บริการภายในร้านให้ดี ให้ประทับใจลูกค้าให้มากที่สุด
CI #1, Alternative B:ไม่เพิ่มการบริการ แต่เน้นให้ความรู้แก่ลูกค้ามากขึ้น อีกทางหนึ่งคือ IKEA ไม่ต้องเพิ่มการบริการลูกค้า แต่ให้ความรู้กับลูกค้ามากขึ้น โดยให้ความรู้ทั้งในเรื่องการเดินเลือกซื้อของภายในร้าน เพื่อตอบข้อสงสัยต่างๆที่ลูกค้ามี และช่วยให้ลูกค้าเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะมาเดินเลือกซื้อของที่ IKEA เมื่อลูกค้ามีความรู้แล้ว ก็จะไม่ต้องการความช่วยเหลือหรือการดูแลจากพนักงานมากนัก การที่ไม่มีพนักงานประจำอยู่ตามตำแหน่งต่างๆภายในร้านจึงไม่เป็นปัญหา และ IKEA ควรให้ความรู้กับลูกค้าในการประกอบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ด้วยว่าทำอย่างไร โดยใช้วิธีการสาธิต เพื่อแสดงให้เห็นว่าการประกอบเฟอร์นิเจอร์เองนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ และลูกค้าก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งอาจใช้วิธีการจัดการสาธิตประกอบเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน IKEA เอง หรือแจก CD สาธิตวิธีการประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรืออาจจะไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับรายการโทรทัศน์ที่ลูกค้าเป้าหมายดู และให้มีการโฆษณาสินค้า หรือมีภาพการประกอบสินค้าของ IKEA อยู่ในรายการตอนนั้นๆ เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพว่าเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA สามารถประกอบได้ง่าย และไม่ว่าใครๆก็สามารถประกอบเองได้
CI #2, Alternative A:โฆษณาเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian ให้มากขึ้น การโฆษณาสินค้าในแบบเก่าๆ เช่น โปสเตอร์ บิลบอร์ด หรือในแคตตาล็อก อาจจะไม่เพียงพอในการดึงดูดให้ลูกค้าสนใจและหันมาซื้อสินค้าของ IKEA ดังนั้น IKEA จึงควรมีวิธีในการโฆษณาแบบใหม่ๆที่ส่งผลต่อผู้บริโภคมากกว่าการโฆษณาแบบเก่าๆ ซึ่งผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะตามกระแสความนิยมมากขึ้น IKEA ควรจะใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้โดยการโฆษณาผ่านรายการโทรทัศน์ เช่น เป็นสปอนเซอร์ให้กับรายการโทรทัศน์ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ความสนใจ และติดตามดูเป็นประจำ การโฆษณาด้วยวิธีนี้จะเข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า ทำให้เกิดความรู้สึกอยากลอกเลียนแบบ เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงแบรนด์ IKEA มากขึ้น หรือเกิด Brand Awareness นั่นเอง
CI #2, Alternative B:เพิ่มสไตล์อื่นที่เป็นที่ต้องการในตลาดนอกจากสไตล์ Scandinavian ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีความต้องการที่แตกต่างจากลูกค้าในประเทศอื่นๆ มีสินค้าหลายแบรนด์ ไม่ใช่แค่ในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้า หรือAmericanizeสินค้าของตนเองเพื่อให้อยู่รอดในตลาด เนื่องจาก IKEA ต้องการขยายตลาดภายในประเทศสหรัฐอเมริกาให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น ดังนั้น IKEA อาจจะต้องปรับรูปแบบสินค้าให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนสินค้าที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการนั้นไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบ Scandinavian เพียงอย่างเดียว IKEA อาจจะต้องเพิ่มสไตล์อื่นๆที่เป็นที่นิยมของชาวอเมริกันเข้ามาด้วย
Recommendation
กลุ่มของพวกเรา ขอแนะนำให้ IKEA ไม่จำเป็นต้องเพิ่มการบริการ แต่เน้นให้ความรู้แก่ลูกค้ามากขึ้น วิธีนี้ IKEA ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิสัยทัศน์ที่มีแต่เดิม คือ เน้นให้ลูกค้าบริการตนเอง แต่ยังเป็นการทำให้ลูกค้ามี Brand Awareness ต่อ IKEA อีกทางหนึ่งด้วย โดย IKEA จะสอนให้ลูกค้า รู้ว่า การประกอบเฟอร์นิเจอร์เองนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด และลูกค้าก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง เป็นการตอบสนองความต้องการแบบ Self-Actualization ซึ่งคือ ทำให้ตัวเองตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดที่ตนสามารถทำได้ ตามทฤษฎี Maslow’s Hierarchy of Need ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดที่มนุษย์ทุกคนต้องการ เมื่อคนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของ IKEA ได้ประกอบเองนั้น ก็จะมีความภาคภูมิใจในการประกอบเฟอร์นิเจอร์เองได้ นอกจากนี้ IKEA ยังสอนให้ตกแต่งบ้านราคาประหยัด แต่ไม่ประหยัดไอเดีย บ้านก็จะมีความสวยงาม และเจ้าของบ้านจะมีความภาคภูมิใจในการใช้ความรู้เรื่องการตกแต่งบ้าน ที่เรียนรู้จาก IKEA และเป็นที่ชื่ชมของผู้ที่มาเยี่ยมชมบ้าน จนในที่สุดลูกค้าจะมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และมีความรู้สึกที่ดีต่อ IKEA โดยที่ IKEA ไม่ต้องไปก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าแม้แต่น้อย ซึ่งเมื่อลูกค้ามีความรู้ในเรื่องเฟอร์นิเจอร์ดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการบริการ หรือ คำแนะนำจากพนักงานโดยตรง ดังนั้นลูกค้าก็จะไม่รู้สึกว่า ตนเองไม่ได้รับการดูแลจากพนักงาน หรือเกิดข้อเปรียบเทียบกับร้านเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
นอกจากนี้แนะนำให้ IKEA โฆษณาเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Scandinavian ให้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่กล่าวข้างต้น คือ ทำให้ลูกค้ามี Brand Awareness ต่อ IKEA กล่าวคือ ทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีความรู้สึกเท่ โก้เก๋ และเป็นผู้นำเทรนด์ เมื่อมีสินค้าสแกนดิเนเวีย มาประดับตกแต่งบ้าน ซึ่งหาได้จากผู้ผลิต และนำเข้ารายเดียวในอเมริกา คือ IKEA นอกจากนี้ การทำโฆษณาแฝง (Subliminal Messages) ไปตามรายการโทรทัศน์ที่กลุ่มเป้าหมายดูเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ประกอบฉาก หรือ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในละคร ไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นนอน ทำกับข้าว รับประทานอาหาร หรือ นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน เมื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดูรายการโทรทัศน์นั้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบตัวละครที่ตัวเองชื่นชอบ อยากมีของที่ตัวละครนั้นใช้ และเนื่องด้วย IKEA ขายสินค้าราคาถูก และ สไตล์ที่โดดเด่นในแบบ Scandinavian ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ จึงทำให้ IKEA เป็นแบรนด์ Top of Mind ที่ใครๆก็นึกถึง และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่กลุ่มเป้าหมายที่ดูรายการโทรทัศน์จะซื้อสินค้าของ IKEA

Similar Documents

Premium Essay

Ikea Case Analysis

...Scandinavian and American customers, and examine the growth strategy. At age 17, Ingvar Kamprad founded IKEA with money (a gift) from his dad for successfully completing his studies. In 1951, he published his first catalog. Two years later, he opened a showroom in Almhuit and soon thereafter began designing his own furniture. In 1956, IKEA started testing flat packages. They designed products that could be packaged flat, which greatly reduced company and customer costs. IKEA opened their first store in Almuit in 1958, followed by another in Stockholm in 1965. Between 1965 and 1973, they opened seven new stores in Scandanavia, capturing 15% of the Swedish market. Business was going great, and it was time to expand. In fact, Kamprad said, "It is our duty to expand," dismissing those who insisted that furniture retailing was a strictly local business (Ingvar Kamprad and IKEA, 1996). Moving full steam ahead, Kamprad purchased a faltering IKEA franchise in Canada in 1979. Within 3 years, the canadian store was a lucrative business, and the management team set their sights on the Unites States. By 2002, the IKEA Group was the world's leading furniture retailer (Ingvar Kamprad and IKEA, 1996). Their 154 stores, across 22 countries, and 286 million customers made up gross sales of $12 billion. IKEA's Culture, Philosophy, and Strategy IKEA's founder once said, "The true IKEA spirit is founded on our enthusiasm, on our constant will to...

Words: 1779 - Pages: 8

Premium Essay

Ikea Case Analysis

...1. What factors account for the success of IKEA? There are several factors that can be accounted to IKEA’s success, however there is one factor that can be considered as the key factor: - The low cost approach which is demonstrated by the following: o IKEA corporate culture: even after the extreme success and growth that the company has achieved, its corporate culture of cost cutting sensibility remains the same. Employees and Managers are encouraged and reminded to cut cost by reducing unnecessary expenses. o IKEA designs it own low priced furniture which allow them to cut the middle man by removing the suppliers and in turn allow them to reduce cost which were then passed to their customers. o IKEA stores are strictly self-service which reduces the cost of having to hire additional personnel. o IKEA furniture comes unassembled and in flat packaging. The flat package not only allows customer to transport the products easier to their home, but also allows IKEA to ship more items in bulk and cargo as well as reducing the storage space required for the items. Also, labor costs are reduced as an assembly personnel is not longer necessary and cost related to transportation damages are less frequent due to the flat packaging. o IKEA’s corporate slogan, “Low price with meaning,” shows their commitment to offer attractive and cleverly designed products while maintaining their low cost. 2. What do you think of the company’s product strategy and product range? Do you agree...

Words: 1821 - Pages: 8

Premium Essay

Ikea Case Analysis

...Sweden early on (50s and 60s)? In 1943, IKEA was founded by Ingvar Kamprad at his home town, selling mainly pencils, postcards and other merchandise. From late 40s to early 50s, manufacturing furniture was introduced as a complement to general merchandise. This enabled Kamprad to step in the furniture business and exploring situation and finding new opportunities. The business had gain massive success in the domestic market for the since opening and the key to its achievements is Kamprad’s leadership. He not only had the vision for the furniture industry, market’s situation, and enthusiasm for business, but Kamprad also played an important role in managing the company’s resources, turned it into capabilities and prove IKEA’s distinctive core competencies. Example for that can be IKEA’s leap on the furniture retail industry: more affordable products to target the large amount of customer, showroom and store’s concept, better customer experience… IKEA’s strategy and business model was also the company’s source of success. IKEA’s prioritize the need of customer, in which price and product range rank the first when it comes to satisfy customer demand, following by IKEA store, catalogue… Marketing strategy was also totally different from other market player at that time, with free and comprehensive catalogues, IKEA was able to introduced customer with a new shopping experience. IKEA’s simple objectives were also needed for its growth. IKEA stated that low costs in all operations are...

Words: 998 - Pages: 4

Premium Essay

Mr. Pham Duc Huy

...sharply increased the intensity of competition in most industries. We will learn how leading firms have devised strategies, structured, and managed their organizations to achieve competitive advantage in this challenging environment. Strategic management deals with uncertainty and unstructured situations. You will learn tools and concepts for putting some structure into your analysis of strategic issues. But most strategic choices require judgment. Case studies enable us to test our judgment and learn vicariously from successful and unsuccessful managers in a variety of situations. Hence, class discussion of the cases is a central part of your learning experience. Methods: We will combine cases, lectures, individual and group papers and presentations. Pre-requisites: First semester of Core. Textbook: Jay Barney, Gaining and Sustaining Competitive Advantage, Fourth Edition. Case Packet will be available. Assignments and Grading: 1. Participation: (15%) Attendance is required. Please inform the instructor in advance if you need to be absent. Participation means active involvement in the discussion of the case with evidence of preparation. 2. Article File: (5% for 1 brief, 5 minute, presentation) Once during the term you will come to class prepared to make a short presentation of an article from a business publication that fits the topic of...

Words: 1617 - Pages: 7

Premium Essay

Case Analysis: Ingvar Kamprad and Ikea

...Case Analysis: Ingvar Kamprad and IKEA Our group will illustrate IKEA’s general development in chronological order. We analyze its’ different strategy in corresponding stage, and look into IKEA’s future development. Part 1:IKEA’s initial development 1. Sources of IKEA’s successful entry in Sweden: Ingvar Kamprad saw a great opportunity when the furniture prices increased 41% faster than household goods between 1935 and 1946, and started selling low price, good quality and simpler design furniture primarily to the younger generation of customers who wanted to buy furniture for their first apartment. The tradition in Sweden was to sell expensive, long lasting (family heirloom) furniture, which after the war was too expensive for people. Instead of locating small stores in the central –more expensive part- of the city, he positioned his warehouses in the suburbs, which was a more cost efficient location which also allowed customers to park their cars. Also, because the furniture cartel banned Kamprad to sell directly to customers at shows and persuaded the manufacturing cartel to stop supplying furniture, IKEA started to sell with the help of catalog and started to supply from a different supplier, which allowed him to reduce his prices even more. He also introduced less expensive raw materials and a less-formal working environment. 2. Management process in the Europe-wide operation: In the Europe-wide operation process, we think the most challenging task for IKEA is...

Words: 1560 - Pages: 7

Premium Essay

Ikea Case Study Analysis

...Case Study IKEA’s Global Strategy: Furnishing the World. The inadequate marketing research done before entry into the North American market (US) militated against the fast market development IKEA had enjoyed in other market regions. Business globalization should involve flexibility of an organization to adapt to different business culture in diverse geographical market segmentation. IKEA had initially failed the transition test which resulted in slow market growth, the company further failed to anticipate the need of the American consumers. IKEA’s idea of using paperback catalogue and word of mouth advertisement would only be successful in familiar markets. Furthermore, the use of the traditional Moose image as a form of “one size fits all” promotional approach did not sell in the new market. Recommendation Promotion - The 21st century has changed the face of advertisement and relying on paperback catalogue would be grossly inadequate for the wide range of consumers the company targets. Apart from the restricted coverage of paperback brochure, there is a limit to the amount of information the consumer would get about the wide variety of product offered by the company. IKEA should be able to capitalize on various social media marketing medium which facilitate a two way communication between manufacturers and consumer, enabling them to efficiently satisfy the needs of their customers. Product – IKEA should increase their product line for consumers to have more varieties and...

Words: 346 - Pages: 2

Premium Essay

Ob, Arctic Minings Consultants, Case Study

...ARCTIC MINING CONSULTANTS Case Synopsis Arctic Mining Consultants is a mining company that deals with mineral exploration. In this case study, the project given is staking 15 claims in Eagle Lake, Alaska. The project Manager was Tom Parker, who has a wide experience and specialized knowledge in all nontechnical aspects of mineral exploration. He is a geological field technician and field coordinator for Arctic Mining Consultants. He assigned his previous field assistants John Talbot, Greg Boyce and Brian Millar to help him complete the project. The job required them to stake at least 7 lengths each day in order to be completed on time. However, the whole team has became very tense and agitated, especially Tom Parker, as the deadline was just around the corner and there’s still many to be finished within the limited time. The problem became worse with the way Tom managed and treated his team. The only motivation to the team was the $300 bonuses promised by the company when the job is done on time, otherwise, they might wished to give up already. This happened because working as a field assistant and in long-working hours only giving them low wages, which is considered unreasonable compared to what they have to do. During the eight hard days, everything had actually proved the strengths and weaknesses of each of the team members, including Tom. Case analysis symptoms 1) What symptom(s) exist in this case to suggest that something has gone wrong? The symptom(s) to suggest...

Words: 2346 - Pages: 10

Premium Essay

Imp Case Analysis

...1. Would a TNA be needed in this situation? Why or why not? If yes, who would you want to talk to? Training Needs Analysis is a formal process required for the purpose of identifying the training gap that is in existence and its related training need. Considering the IMP case analysis, training needs analysis is required since there are different sectors within the organization which require an individual to possess the necessary skills to perform the expected work within that department. In addition, training is also offered to people working within the ‘different sectors’ in that organization despite the fact that equality is not displayed while offering that form of training. Talking to the HR manager at North America International Airport’s about training needs analysis is a good idea since the HR manager is the one with the authority over the individual’s directly concerned with training such as Mr. Pettipas. 2. Based on the case as presented above, what KSAs need to be trained? From the case analysis at IMP, it is evident that there are several knowledge, skills and abilities that have to be addressed during training to all the employees within those departments. Leadership skills need to be addressed since the HR was not able to assist Ms. Dillman in her case which portrayed that he lacked the leadership skills. Technician skills required for the metal sheet shop needs to be trained since Ms. Dillman lacked knowledge on the requirement of a metal sheet shop technician...

Words: 733 - Pages: 3

Premium Essay

Craddock Cup

...✓ Materials Needed Performance Measurement & Control Systems for Implementing Strategy: Text and Cases, by Simons, Robert. Prentice Hall, ISBN #0-13-234006-2 Cases in Management Accounting & Control Systems 4th Edition, by Allen, Brownlee, Haskins and Lynch, Pearson-Prentice Hall, ISBN #0-13-570425-1 Freakonomics: A Rouge Economist Explores the Hidden Side of Everything, by Steven D. Levitt and Stephen J. Dubner, Harper Collins, ISBN#0-06-073132-X ✓ University Communication with Students All email communication from the University is sent to the student’s wsu.edu address. Please be sure that you have set up the link to forward your personal email address (aol, hotmail, etc.) or you will miss announcements and information that is very important to you. This is the email I use to contact you regarding class matters. If you change your email address, be sure to update again. ✓ Catalog Course Description with Prerequisitites 3credits: Managerial evaluation of budgeting, cost accounting, and financial analysis techniques; their utilization in control of operations. (pre-requisite acctg 550 or equivalent). Please note that pre-requisites are strictly enforced and that students will be disenrolled if they do not have course pre-requisites). ✓ Instructor Course Objectives Knowledge and Skill Expectations: Students should have the knowledge and skill level to record economic events, read and analyze financial information through the topic areas covered...

Words: 3504 - Pages: 15

Free Essay

Ritz-Carlton Case

...Title Page Course – MKTG 6300 Fall 2007 Service Marketing Student Name: Maria E. Kobayashi Individual Case Analysis Individual Case Summary: Ritz – Carlton Hotels 1. Key issues Ritz – Carlton (RC) wants to be perceived as the premier luxury hotel, with differentiated and personalized service, high levels of guest retention and guest recovery rates, and low levels of service defect incidence. The group wants to achieve this goal by optimizing the balance between human relationships and the systems. Nevertheless, the systems and databases RC had in place at the time of the case do not deliver the level of information needed to reach their objective. Moreover, they do not allow for smooth interaction with the RC team, who are able to gather highly valuable information regarding customers’ preferences, dislikes, or potential problems experimented by the guests. 2. Recommendations First of all, the Encore system should be modified to include real-time updating of customers’ preferences and of potential problems the guests might have experimented during their stay. This should be standardized across all RC properties. Guest categorization should also be standardized and input into the system. This system should be available in a user-friendly way to any member of the RC staff in convenient locations. It should also include a common defect reporting module with the functionality to cross data between different locations. After all these processes...

Words: 382 - Pages: 2

Free Essay

Moto Case Analysis

...In the case, a man who goes by the name Moto is sent to Chicago to do business. Here his “responsibility was to hire a contracting company and check on the pricing details.” He works for an auto parts supplier, KKD, who had been researching American contracting companies for the past year and a half. They decided to use Allmack due to it having the best track record. Moto went to meet with a man who worked for the company and was shocked by his rudeness and unprofessional manner. He wasn’t prepared for this and had no idea what to think of it. Also, he was not so used to moving so quickly and rushing around. In America, people are very fast passed and try to get things done as quickly as possible. He presented Mr. Crowell with a gift and he just stated that his daughter would love it. When Crowell said this, Moto should have gone in to a discussion explaining what the dolls meant and the importance of them. This way he could have shown Crowell the value in the gift he was giving him and he would have taken back the comment about his daughter loving them. Throughout the case there are many differences that Moto is shocked by. One of these is the fact that he is used to being called by his last name. He was surprised when Crowell asked for his first name and began calling him by that instead. Also, he wanted proof that the Allmack group was actually as good as they say they are. He asked for records and one of the workers got offended and was wondering why he did not trust them...

Words: 415 - Pages: 2

Free Essay

469362181

...to time to write a good CAR. So, once you “get” the Big Picture of the Case, and recognize the major analysis elements (focal system(s), main problem/Alternatives, etc.): o focus on analyzing those Alternatives and coming up with some significant Findings, and especially Recommendations. o As your analysis results “solidify,” focus more and more on Writing a Good CAR and submitting by the Due Date! • Cases can contain more than 1 major “track” for their analysis, allowing for alternative versions of a CAR. So, do NOT simply imitate this Example CAR blindly for its “specific content.” Worse, DO NOT simply copy any of its parts. • Instead, use this Example CAR by way of “Reverse Engineering:” See how its contents arise logically if our Case Analysis Method (Guide) is applied to the Case. This will help you understand how our analysis method works! Then, use the same general analysis method (actually, the Approach) on the Case assigned for your CAR. • Don’t just imitate the pattern of alternative found here! Analyse and find out what alternatives make most sense in the particular Case you are working on. • No Case contains ALL the facts you want to know for its analysis. So, when analyzing Cases, be pragmatic! Do not worry about any facts beyond the Case (unless specifically instructed). Instead, conduct the “best possible” analysis using available Case-facts. • Leave Enough Time to Write a GOOD REPORT based on your...

Words: 1972 - Pages: 8

Free Essay

Power and Influece

...discussing “case” materials in light of theoretical arguments advanced in “readings.” Case materials include standard Harvard Business School cases, book chapters about individuals (Robert Moses and Henry Kissinger), corporations (e.g., Lehman Brothers and Time Warner), and industries (e.g., the auto industry), and in-class videos (e.g., a “Bill Moyer’s Journal” segment on David Rockefeller). COURSE REQUIREMENTS Final course grades will be based on student performance on three written assignments and on student participation in class discussions. Written Assignments. Each student will be expected to submit two individual case analyses that indicate what the student learned from reading and discussing the case in question. The case analyses should be one single spaced typewritten page long and should be submitted the week after the case that they address is discussed in class. Individual case analyses will be graded on a scale from 1-3 and together will comprise 10% of a student’s final grade. Each student should also form a group with three to four other students to complete a case study of a real organization. The research for this case study can be carried out using primary sources (e.g., participation observation and/or interviews) or secondary sources (e.g., books, articles, or prepared cases about a target organization). Thus, group members need not have worked in an organization to use it as the subject of their final case analysis. Other case analysis topics...

Words: 1326 - Pages: 6

Free Essay

Ase Analysis Research – Striving for Best Academic Practice

...ZhiQing | Student ID No.: | 22012511 | Unit Code & Name: | MNG91002 | Campus: | MDIS | Tutor’s Name: | Frankie-Lim | Assignment No: | 1 | Assignment Title: | Case Analysis Research – Striving for Best Academic Practice | Word Count: | 1193 | Due Date: | 21 Apr 2014 | Date submitted: | 20 Apr 2014 | Declaration: I declare that this assignment is my own original work and has not been submitted for assessment elsewhere. I acknowledge and irrevocably agree that the assessor of this assignment may, for the purpose of assessing this assignment: * Reproduce this assignment and provide a copy to another member of faculty for review and comment, including whether the work is an original work; and/or * Provide a copy of this assignment to a plagiarism checking service for review so that it may determine whether the assignment is an original work. The checking service may retain a copy of the assignment on its database for the purpose of future plagiarism checking. I have read and understand the Rules relating to Awards (Rule 3.17) as contained in the University Handbook. I understand the penalties that apply for plagiarism and agree to be bound by these rules. CHEN ZHIQING 20 Apr 2014 Signature (please type) Date Tutor's comments: Paper Title: Case Analysis Research –...

Words: 1822 - Pages: 8

Premium Essay

Northco Case

...Northco Case Analysis Johannes Röder, 154BB14B 1. How should Michaels think about the costs of over and under-stocking? Identify the elements of over and under-stocking cost in this case. These two cost factors result from the lack of the ability to match supply with demand. The costs of overstocking depict the cost per unit that arise if actual demand is lower than the expected one. In this particular case the elements of overstocking are the orders of customers in advance without payment, the obsolescence of the goods owing to seasonally and frequently changing trends, the large number of variants and variety in fabrics as well as the requirement to order in considerable quantities. The costs of understocking show the loss of profit per unit if actual demand is higher than the quantity ordered. The components of understocking are the significant variation and the high uncertainty in demand, which lead to difficulties with the forecasts in the beginning of the season. Moreover, the fitting processes and managerial actions to avoid leftover inventory are influencing the understock. The shortcomings in delivery are substantially important in this special case, since the failure for one product could result in the loss of a whole account. With a relatively small customer base of 91 schools as well as the two largest clients representing 14 percent of the sales a loss of a customer would result in sharp decrease in profits. In addition, the defect of a...

Words: 546 - Pages: 3